“Flower Duet” หรือ “Duettino: ‘Che fiero avvegno’” จากโอเปราเรื่อง Lakmé ของ โอฟรีโด ฟอน เวบา爾 (Giacomo Puccini) เป็นหนึ่งในบทเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเภทอาริอา และมักถูกนำมาขับร้องทั้งในรูปแบบเดี่ยวและรวมกันเป็นคอรัส ตัวอย่างเช่น เวอร์ชั่นของ โอเปรา ซิงเกอร์ Sarah Brightman และ Andrea Bocelli ที่สร้างกระแสฮิตไปทั่วโลก
โอเปร่าเรื่อง Lakmé เป็นผลงานสุดท้ายของ โอฟรีโด ฟอน เวบา爾 ซึ่งแต่งขึ้นในปี ค.ศ. 1883 โดยมีเนื้อเรื่องที่ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง “The Countess of Chanteloup” ของ Jules Henry Vernoy de Saint-Georges
“Lakmé”: สตอรี่แห่งความรักและความเสียสละ
Lakmé เล่าถึงเรื่องราวของ Lakmé หญิงสาวชาวอินเดียที่เป็นลูกสาวของ Archarya (นักบวช) Lakmé ตกหลุมรักกับ Gerald, ชายหนุ่มชาวอังกฤษ แต่ความรักนี้ต้องถูกห้ามปรามเนื่องจากข้อขัดแย้งระหว่างชนเผ่า
Gerald สนใจ Lakmé และเข้ามาในศาสนสถานของ Archarya เพื่อหวังจะได้พบเจอกับเธอ Lakmé กำลังร้องเพลง “Flower Duet” ในขณะที่เธอกำลังเก็บดอกไม้ Gerald โผล่มาจากหลังต้นไม้และทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน
แต่ความรักของ Lakmé และ Gerald ไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายอังกฤษและฝ่ายอินเดีย Archarya ตัดสินใจที่จะฆ่า Gerald เพื่อแก้แค้น Lakmé พยายามที่จะปกป้อง Gerald แต่สุดท้ายก็ต้องเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อรักษาเกียรติของครอบครัว
“Flower Duet”: เสียงขับร้องอันไพเราะที่สะท้อนถึงความรักและความโศกเศร้า
Flower Duet เป็นบทเพลงที่ขับร้องโดย Lakmé และ her maid, Mallika ในขณะที่พวกเธอกำลังเก็บดอกไม้เพื่อทำเครื่องบูชา
เพลงนี้เริ่มต้นด้วยท่อนอาร์เปจโจที่ไพเราะและยั่วยวนก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาของบทเพลงซึ่ง Lakmé ร้องถึงความรักและความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นจากการถูกห้ามปราม Mallika ร้องตามหลัง Lakmé ด้วยเสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่น
Lakmé: “Ah, the flowers are so beautiful!” Mallika: “Yes, they are. But they will soon wither and die.”
Lakmé: “Just like our love”
Mallika: “Don’t worry, Lakmé. We will always be together.”
องค์ประกอบดนตรีที่น่าสนใจ:
- Melody: มีลักษณะเป็นเมโลดี้ที่ไพเราะและง่ายต่อการจดจำ
- Harmony: ใช้ความสามัคคีของเสียงเพื่อสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก
- Rhythm: มีจังหวะที่ช้าและสบายๆ ซึ่งทำให้เพลงนี้เหมาะสำหรับการผ่อนคลาย
- Instrumentation: ใช้เครื่องดนตรีสตริง (strings) เพื่อสร้างบรรยากาศที่อ่อนโยน
“Flower Duet” : ความนิยมข้ามทศวรรษ
“Flower Duet” ไม่ใช่แค่บทเพลงที่โด่งดังในหมู่แฟนโอเปร่าเท่านั้น แต่ยังได้รับการนำมาใช้ในสื่อต่างๆ เช่น:
-
ภาพยนตร์: “Moonstruck” (1987), “Dangerous Liaisons” (1988)
-
รายการโทรทัศน์: “Grey’s Anatomy”, “Frasier”
-
โฆษณา: Chanel No. 5
สรุป:
“Flower Duet” เป็นบทเพลงที่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความงามและความยั่งยืนของดนตรีคลาสสิก ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะ, เนื้อร้องที่โรแมนติก และการเรียบเรียงดนตรีที่งดงาม “Flower Duet” ยังคงเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
แม้ว่าโอเปร่าเรื่อง Lakmé จะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับโอเปราเรื่องอื่นๆ ของ Puccini เช่น Tosca, La Bohème หรือ Madama Butterfly แต่ “Flower Duet” ก็ยังคงเป็นบทเพลงที่ได้รับการยกย่องและชื่นชมมาอย่างยาวนาน
ตัวอย่างการนำไปใช้:
สื่อ | ปี |
---|---|
Moonstruck | 1987 |
Dangerous Liaisons | 1988 |
Grey’s Anatomy | 2005-present |