For Those Who Wander: An Exploration of Drone and Silence in Pauline Oliveros' 'The Wanderer'

ดนตรีทดลองมักถูกมองว่าเป็นหมวดหมู่ที่ลึกลับและเข้าถึงยากสำหรับผู้ฟังทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดนตรีประเภทนี้ก็มีเสน่ห์และความงดงามไม่ต่างจากดนตรียอดนิยม เพียงแต่เราต้องเปิดใจและจินตนาการให้กว้างไกลมากขึ้น

วันนี้ เราจะเดินทางไปสู่โลกของดนตรีทดลองด้วยผลงานชิ้นเอกของ Pauline Oliveros นักแต่งเพลงชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ “The Wanderer” เป็นผลงานที่สะท้อนถึงปรัชญาของ Oliveros เกี่ยวกับการฟังอย่างตั้งใจ (Deep Listening) และความสัมพันธ์ระหว่างเสียงเงียบและเสียง

Oliveros เกิดในปี 1932 ในเมือง休斯顿 รัฐเท็กซัส เธอเป็นผู้บุกเบิกด้านดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และดนตรีทดลอง Oliveros สนใจในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเสียงใหม่ๆ และในขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นไปที่การเล่นดนตรีแบบร่วมสมัย ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการนำเสนอแนวคิดมากกว่าการเน้นความไพเราะ

Oliveros เป็นศาสตราจารย์ด้านดนตรีที่ Mills College และ San Francisco Conservatory of Music เธอเป็นผู้ก่อตั้ง Deep Listening Institute ซึ่งมีเป้าหมายในการสอนคนให้รับรู้เสียงและความเงียบอย่างลึกซึ้ง

“The Wanderer” เป็นผลงานดนตรีที่ Oliveros สร้างขึ้นในปี 1986 มันเป็นการผสมผสานระหว่าง drone (เสียงทุ้มยาว) และ silence (ความเงียบ) ซึ่งทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าขบคิดและมีมิติ “The Wanderer” ไม่ได้เน้นจังหวะ หรือทำนอง แต่เน้นไปที่การสร้างอารมณ์และความรู้สึกผ่านเสียงที่เรียบง่าย

องค์ประกอบของดนตรี:

องค์ประกอบ	ลักษณะ
Drone	เสียงทุ้มยาวที่คงที่ เริ่มต้นด้วย synthesizer และค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา
Silence	ช่วงเวลาว่างที่แทรกอยู่ระหว่าง drone
Timbre	เสียงที่มีสีสันและความแปลกใหม่ เนื่องจาก Oliveros ใช้เทคนิคการบันทึกเสียงและการปรับแต่งอย่างพิถีพิถาน
Dynamics	ระดับเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่เบาจนถึงดัง และกลับมาเบาอีกครั้ง

ประสบการณ์การฟัง:

Oliveros เชื่อว่าดนตรีสามารถนำพาผู้ฟังไปสู่การสำรวจภายในและการเชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมได้ “The Wanderer” ชวนให้ผู้ฟังจดจ่ออยู่กับเสียง drone และ silence ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกสงบเงียบ ความหงุดหงิด หรือแม้กระทั่งความกระอักกระอ่วน

เมื่อเราฟัง “The Wanderer” เราต้องเปิดใจยอมรับว่ามันไม่ได้เป็นดนตรีที่ให้ความบันเทิงแบบดั้งเดิม แต่เป็นประสบการณ์การฟังที่ท้าทายและเชิญชวนให้ผู้ฟังสำรวจความหมายของเสียงเงียบ และความสัมพันธ์ระหว่างเสียงและความว่างเปล่า

Oliveros ตั้งใจให้ “The Wanderer” เป็นดนตรีที่ผู้ฟังสามารถตีความได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความรู้สึก และสถานการณ์ของแต่ละคน

อิทธิพล: “The Wanderer” เป็นผลงานที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีทดลอง Oliveros ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักแต่งเพลงและศิลปินจากทั่วโลกในการใช้ drone, silence และเทคนิคการบันทึกเสียงที่แปลกใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ดนตรีที่มีความหมายลึกซึ้ง

Oliveros เสียชีวิตในปี 2016 แต่ผลงานของเธอ รวมทั้ง “The Wanderer” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ฟังและนักแต่งเพลงทั่วโลก เธอได้ทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้ในวงการดนตรี และพิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีทดลองสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ทรงพลังและน่าขบคิดได้

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การฟังที่แตกต่างไปจากเดิม ลองเปิดใจให้กับ “The Wanderer” ของ Pauline Oliveros และปล่อยให้เสียง drone และ silence นำพาคุณไปสู่การสำรวจภายในและการเชื่อมต่อกับความเงียบ