หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของดนตรีคันทรี “Ring of Fire” ของจอห์นนี แคช ถือเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ควรค่าแก่การฟังอย่างยิ่ง ด้วยเสียงร้องอันทรงพลังของแคชและเมโลดีที่ติดหูอย่างน่าเหลือเชื่อ บทเพลงนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของดนตรีคันทรีสมัยใหม่ และยังคงได้รับความนิยมจากผู้ฟังทั่วโลก
“Ring of Fire” เป็นผลงานประพันธ์โดยเมอร์ล เฮนเดอร์สัน และจอห์นนี แคช ตัดสินใจบันทึกเสียงเพลงนี้ในปี 1963 โดยมีวงดนตรี The Tennessee Three ร่วมด้วย ในขณะที่แคชกำลังร้องเพลง “Ring of Fire” ในห้องซ้อม เขารู้สึกว่าการเล่นกีตาร์แบบปกติไม่เข้ากับอารมณ์ของเพลง จึงตัดสินใจใช้เทคนิคการเล่นกีตาร์แบบ “boom-chick” ซึ่งเป็นรูปแบบการตีสายกีตาร์แบบเรียบง่ายและต่อเนื่อง
เทคนิคนี้ช่วยให้เพลงมีจังหวะที่ติดหูและดึงดูดผู้ฟังได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่า “Ring of Fire” จะเป็นเพลงคันทรี แต่ก็มีกลิ่นอายของดนตรีเม็กซิกันผสมอยู่ด้วย ซึ่งเกิดจากการที่แคชได้รับอิทธิพลจากดนตรี mariachi ในช่วงวัยหนุ่ม
เนื้อร้องของ “Ring of Fire” ถ่ายทอดความรู้สึกของบุรุษที่ตกหลุมรักอย่างแรงกล้า แต่ก็ถูกความเจ็บปวดและความโศกเศร้าตามมา เนื้อร้องใช้คำอุปมา “ring of fire” (วงแหวนแห่งไฟ) เพื่อเปรียบเทียบความรักอันร้อนแรงแต่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
- เนื้อเพลงบางส่วน:
I fell into a burning ring of fire I went down, down, down and the flames went higher
เนื้อร้องนี้แสดงให้เห็นถึงความรักที่คลุ้มคลั่งและอาจเป็นอันตรายได้
“Ring of Fire” ได้รับการต้อนรับอย่างดีหลังจากวางจำหน่ายในเดือนเมษายน 1963 และขึ้นสู่ตำแหน่งอันดับ 1 บนชาร์ท Billboard Hot 100 ภายในไม่กี่เดือน
เพลงนี้ได้รับรางวัลแกรมมีสำหรับ “Best Country & Western Recording” ในปี 1964 และยังคงเป็นหนึ่งในเพลงที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
ความสำเร็จของ “Ring of Fire” มีส่วนสำคัญในการทำให้ดนตรีคันทรีได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปทั่วโลก และช่วยให้จอห์นนี แคช กลายเป็นตำนานของวงการดนตรี
อิทธิพลและมรดก
นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านยอดขายแล้ว “Ring of Fire” ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปินและนักดนตรีคนอื่นๆ ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
เพลงนี้ถูกนำไปคัฟเวอร์โดยศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น อันนา คิแคล, ไมเคิล บูเบล และ โอลิเวีย นิวตัน-จอห์น
การที่ “Ring of Fire” ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการข้ามผ่านรสนิยมและยุคสมัยของดนตรีคันทรี
เพลงนี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ฟังทุกวัย และมักถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ โฆษณา และรายการโทรทัศน์
จอห์นนี แคช: ตำนานแห่งดนตรี Country
“Ring of Fire” เป็นส่วนหนึ่งของมรดกที่ยิ่งใหญ่ของจอห์นนี แคช ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็น “The Man in Black” (ชายในชุดดำ) เนื่องจากความนิยมในการสวมใส่เสื้อผ้าสีดำตลอดการแสดงดนตรีของเขา
แคชมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีคันทรีและดนตรีสมัยใหม่โดยทั่วไป ด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา การใช้กีตาร์แบบ “boom-chick” และเนื้อเพลงที่มุ่งเน้นไปที่ชีวิตของคนธรรมดา
ตลอดอาชีพการงานของเขา แคชได้รับรางวัลแกรมมี 12 รางวัล และติดอยู่ในหอเกียรติยศ Rock & Roll Hall of Fame, Country Music Hall of Fame และ Songwriters Hall of Fame
ตารางเปรียบเทียบ “Ring of Fire” กับเพลงคันทรียอดนิยมอื่นๆ:
เพลง | ศิลปิน | ปี | ประเภท |
---|---|---|---|
“Ring of Fire” | Johnny Cash | 1963 | Country, Rockabilly |
“I Walk the Line” | Johnny Cash | 1956 | Country |
“Crazy” | Patsy Cline | 1961 | Country |
“Jolene” | Dolly Parton | 1974 | Country |
“Take Me Home, Country Roads” | John Denver | 1971 | Folk, Country |
สรุป
“Ring of Fire” ของจอห์นนี แคช เป็นเพลงคันทรีที่เหนือกาลเวลาซึ่งยังคงดึงดูดผู้ฟังทั่วโลก ด้วยเมโลดีที่ติดหู เนื้อร้องที่กินใจ และการแสดงที่ทรงพลังของแคช “Ring of Fire” ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของดนตรีคันทรีสมัยใหม่ และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของแคชในการสร้างเพลงที่ sowohl zeitlos als auch relevant für jeden Hörer ist.